top of page

เจ้าของธุรกิจต้องรู้ กฎหมายที่เกี่ยวกับการก่อสร้างและตกแต่ง

รูปภาพนักเขียน: Decco developDecco develop

อัปเดตเมื่อ 24 ก.พ.


เจ้าของธุรกิจต้องรู้ กฎหมายที่เกี่ยวกับการก่อสร้างและตกแต่ง

การเริ่มต้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างและตกแต่งในปัจจุบัน มีความซับซ้อนและต้องคำนึงถึงกฎหมายหลายฉบับ การทำความเข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวข้องจึงเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับผู้ประกอบการ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ บทความนี้จะรวบรวมสาระสำคัญของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมคำอธิบายและแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง

กฎหมายหลักที่ควรรู้ พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 เป็นกฎหมายแม่บทที่กำกับดูแลการก่อสร้างและตกแต่งอาคารในประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อควบคุมการก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน เคลื่อนย้าย และการใช้อาคารให้มีความมั่นคงแข็งแรง ปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ และสอดคล้องกับการผังเมือง กฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดมาตรฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาคาร ตั้งแต่การออกแบบ การก่อสร้าง ไปจนถึงการใช้งาน รวมถึงบทลงโทษกรณีที่มีการฝ่าฝืน




1. การแบ่งประเภทงานตามกฎหมายกับการก่อสร้างและตกแต่ง


การแบ่งประเภทงานตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการก่อสร้างแลตกแต่ง


งานก่อสร้างใหม่

งานก่อสร้างใหม่ทุกประเภทต้องได้รับการอนุญาตก่อนเริ่มดำเนินการ โดยต้องมีการจัดเตรียมแบบแปลนที่ได้รับการรับรองจากวิศวกรและสถาปนิกที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ แบบแปลนต้องแสดงรายละเอียดที่สำคัญ เช่น ผังบริเวณ แบบแปลนอาคาร รูปด้าน รูปตัด และรายการประกอบแบบที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้าง วัสดุ และงานระบบต่างๆ นอกจากนี้ ยังต้องมีวิศวกรและสถาปนิกควบคุมงานตลอดระยะเวลาการก่อสร้าง


งานดัดแปลงอาคาร

การดัดแปลงอาคารครอบคลุมการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่มีผลต่อโครงสร้างหลักของอาคาร พื้นที่ใช้สอย หรือระบบความปลอดภัย เช่น การต่อเติมพื้นที่ การเปลี่ยนแปลงผนังรับน้ำหนัก การเพิ่มชั้น หรือการเปลี่ยนแปลงระบบป้องกันอัคคีภัย งานเหล่านี้ต้องได้รับอนุญาตก่อนดำเนินการ และต้องมีการคำนวณโครงสร้างเพื่อยืนยันว่าอาคารยังคงมีความมั่นคงแข็งแรงเพียงพอ


งานตกแต่งภายใน

งานตกแต่งภายในแบ่งเป็นสองประเภทหลัก คือ งานที่ไม่กระทบต่อโครงสร้างและงานที่มีผลต่อความปลอดภัย สำหรับงานตกแต่งที่ไม่กระทบโครงสร้าง เช่น การทาสี การปูพื้น การติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ไม่จำเป็นต้องขออนุญาต แต่งานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย เช่น การเปลี่ยนแปลงทางหนีไฟ การกั้นห้อง การติดตั้งระบบไฟฟ้าใหม่ ต้องได้รับการอนุญาตและดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญ



2. ขั้นตอนการขออนุญาตที่ถูกต้องการก่อสร้างและตกแต่ง


ขั้นตอนการขออนุญาตที่ถูกต้องการก่อสร้างและตกแต่ง

การเตรียมเอกสาร

การเตรียมเอกสารที่ครบถ้วนและถูกต้องเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้การขออนุญาตเป็นไปอย่างราบรื่น เอกสารที่จำเป็นประกอบด้วย

  • แบบแปลนที่ได้รับการรับรองจากผู้ประกอบวิชาชีพ

  • เอกสารแสดงสิทธิ์ในที่ดิน เช่น โฉนด นส.3 หรือ นส.3ก

  • สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ขออนุญาต

  • หนังสือยินยอมจากเจ้าของที่ดิน (กรณีผู้ขออนุญาตไม่ใช่เจ้าของที่ดิน)

  • หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีผู้ขออนุญาตเป็นนิติบุคคล)

  • หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)


การยื่นคำขอ

เมื่อเตรียมเอกสารครบถ้วนแล้ว ให้ยื่นคำขอที่สำนักงานเขต เทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล ตามเขตพื้นที่ที่จะก่อสร้าง โดยมีขั้นตอนดังนี้

  • ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบเอกสารเบื้องต้น

  • กรอกแบบคำขออนุญาตให้ครบถ้วน

  • ชำระค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอ

  • รับใบรับคำขอและรอการพิจารณา (ระยะเวลาไม่เกิน 45 วัน)


การรับใบอนุญาต

หลังจากคำขอได้รับการอนุมัติ ผู้ขออนุญาตจะได้รับการแจ้งให้มารับใบอนุญาต โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้

  • ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในใบอนุญาต

  • ศึกษาเงื่อนไขและข้อกำหนดที่ระบุในใบอนุญาต

  • ใบอนุญาตมีอายุ 1 ปีนับจากวันที่ออก

  • หากก่อสร้างไม่แล้วเสร็จต้องขอต่ออายุก่อนหมดอายุ

  • เก็บรักษาใบอนุญาตไว้ในสถานที่ก่อสร้างเพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่


3. ข้อควรระวังในการดำเนินงานการก่อสร้างและตกแต่ง


ข้อควรระวังในการดำเนินงานการก่อสร้างและตกแต่ง

ข้อกำหนดด้านพื้นที่ การตรวจสอบข้อกำหนดด้านพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการก่อนเริ่มงาน


ผังเมืองรวม
  • ตรวจสอบประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดิน

  • ข้อจำกัดด้านความสูงของอาคาร

  • อัตราส่วนพื้นที่อาคารต่อพื้นที่ดิน (FAR)

  • อัตราส่วนพื้นที่ว่างต่อพื้นที่อาคาร (OSR)


มาตรฐานความปลอดภัย การก่อสร้างและตกแต่งต้องคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยหลายด้าน


ระบบป้องกันอัคคีภัย
  • ระบบตรวจจับควันและความร้อน

  • ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ

  • ทางหนีไฟและป้ายบอกทาง

  • อุปกรณ์ดับเพลิงแบบพกพา


โครงสร้างต้านแรงแผ่นดินไหว
  • การออกแบบตามมาตรฐาน มยผ.

  • การเสริมความแข็งแรงโครงสร้าง

  • การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม

  • การตรวจสอบและบำรุงรักษา


ระบบระบายอากาศ
  • การคำนวณอัตราการระบายอากาศ

  • ตำแหน่งช่องลมและพัดลมระบาย

  • ระบบกรองอากาศ

  • การบำรุงรักษาระบบ

  • การควบคุมมลภาวะ การควบคุมผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมระหว่างการก่อสร้าง:


เสียงรบกวน
  • กำหนดเวลาทำงานที่เหมาะสม

  • ใช้เครื่องมือที่มีระดับเสียงไม่เกินมาตรฐาน

  • ติดตั้งวัสดุลดเสียง

  • แจ้งแผนงานให้ผู้อยู่ข้างเคียงทราบ


การควบคุมฝุ่น
  • ติดตั้งผ้าใบคลุมอาคาร

  • ฉีดพรมน้ำลดฝุ่น

  • ทำความสะอาดล้อรถก่อนออกจากพื้นที่

  • จัดการพื้นที่ก่อสร้างให้เป็นระเบียบ


การจัดการขยะ
  • แยกประเภทขยะก่อสร้าง

  • จัดเก็บในพื้นที่เฉพาะ

  • กำจัดโดยผู้รับเหมาที่ได้รับอนุญาต

  • บันทึกปริมาณและการขนย้าย

 

4. กฎหมายที่เกี่ยวกับการก่อสร้างและบทลงโทษกรณีฝ่าฝืน


กฎหมายที่เกี่ยวกับการก่อสร้างและบทลงโทษกรณีฝ่าฝืน

โทษทางอาญา โทษทางอาญาสำหรับการฝ่าฝืนกฎหมายควบคุมอาคารมีหลายระดับ


การก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • จำคุกไม่เกิน 3 เดือน

  • ปรับไม่เกิน 60,000 บาท

  • อาจได้รับทั้งจำทั้งปรับ

  • มีประวัติอาชญากรรมติดตัว


การฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน
  • จำคุกไม่เกิน 6 เดือน

  • ปรับไม่เกิน 100,000 บาท

  • ปรับรายวันอีกวันละไม่เกิน 30,000 บาท

  • อาจถูกดำเนินคดีซ้ำได้จนกว่าจะปฏิบัติตาม


5. โทษทางปกครอง มาตรการทางปกครองที่อาจถูกดำเนินการ


โทษทางปกครอง มาตรการทางปกครองที่อาจถูกดำเนินการ

คำสั่งระงับการก่อสร้าง
  • หยุดการก่อสร้างทันที

  • ห้ามใช้หรือเข้าไปในอาคาร

  • ระงับการให้บริการไฟฟ้าและน้ำประปา

  • ติดประกาศแจ้งคำสั่งที่อาคาร


คำสั่งรื้อถอน
  • กำหนดระยะเวลาให้รื้อถอน

  • ค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนเป็นของเจ้าของ

  • หากไม่รื้อถอน เจ้าพนักงานดำเนินการเอง

  • เจ้าของต้องชำระค่าใช้จ่ายเพิ่ม 10%


ค่าปรับรายวัน
  • เริ่มนับตั้งแต่วันที่ฝ่าฝืนคำสั่ง

  • อัตราขึ้นอยู่กับความรุนแรง

  • ต้องชำระจนกว่าจะปฏิบัติตาม

  • สามารถฟ้องร้องทางแพ่งเพื่อบังคับชำระ


6. คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการ


 คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการ

การเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มธุรกิจ
  • ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด

  • จัดทำแผนธุรกิจที่สอดคล้องกับข้อกำหนด

  • ประเมินงบประมาณให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านกฎหมาย

  • สร้างเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอาคาร


การบริหารจัดการเอกสาร
  • จัดระบบเก็บเอกสารสำคัญ

  • ทำสำเนาใบอนุญาตและเอกสารประกอบ

  • บันทึกการติดต่อกับหน่วยงานราชการ

  • จัดทำปฏิทินติดตามการต่ออายุใบอนุญาต


การพัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่อง
  • เข้าร่วมสัมมนาด้านกฎหมายอาคาร

  • ติดตามข่าวสารการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ

  • แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ประกอบการอื่น

  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเมื่อมีข้อสงสัย

 

7. แนวทางการปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการก่อสร้างและตกแต่ง


แนวทางการปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการก่อสร้างและตกแต่ง

การสร้างความน่าเชื่อถือ
  • ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

  • รักษามาตรฐานการทำงาน

  • สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับหน่วยงานราชการ

  • มีความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ


การจัดการความเสี่ยง
  • ทำประกันภัยที่เหมาะสม

  • มีที่ปรึกษากฎหมายประจำ

  • จัดทำแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน

  • ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายเป็นประจำ


การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
  • วางแผนการขยายธุรกิจที่สอดคล้องกับกฎหมาย

  • พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ด้านกฎหมาย

  • สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎหมาย

  • มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและสังคม


บทสรุปโดยรวม


การประกอบธุรกิจก่อสร้างและตกแต่งให้ประสบความสำเร็จ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทักษะฝีมือเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องอาศัยความเข้าใจและการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎหมายตั้งแต่เริ่มต้น จะสามารถสร้างธุรกิจที่มั่นคง น่าเชื่อถือ และเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

ความสำเร็จของธุรกิจก่อสร้างและตกแต่งจะเกิดขึ้นได้ เมื่อผู้ประกอบการสามารถผสมผสานความเชี่ยวชาญในงานเข้ากับการปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างลงตัว ซึ่งจะนำไปสู่การเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพที่ได้รับการยอมรับในวงการ


ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านบทความนี้

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และเป็นแนวทางให้ท่านสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น มั่นคง และเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะความสำเร็จที่แท้จริงไม่ได้วัดกันที่กำไรเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาวงการก่อสร้างและตกแต่งของไทยให้ก้าวหน้าและได้มาตรฐานสากล


หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอาคาร หรือติดต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้โดยตรง เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจของท่านเป็นไปอย่างถูกต้องและสอดคล้องกับกฎหมายทุกประการ


หมายเหตุ ข้อมูลในบทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ความรู้และแนวทางปฏิบัติเท่านั้น ขอแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลกับผู้เชี่ยวชาญก่อนนำไปใช้ทุกครั้ง เพื่อให้คุณมีธุรกิจที่มีคุณภาพมีมาตรฐาน ลดข้อผิดพลาดที่จะตามมาทีหลัง ให้คุณได้รู้รายละเอียดของงานที่กำลังดำเนินงานได้อย่างโปร่งใส เพื่อการทำธุรกิจที่ยั่งยืนต่อไป


DeccoDesign เราสร้างสรรค์ผลงาน ยกระดับมาตรฐานงานออกแบบทุกประเภทร้าน มีการทำงานอย่างเป็นระบบแบบมืออาชีพ ให้บริการครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศแบบ One Stop Service ครบจบในที่เดียว ด้วยประการณ์การทำงานมากกว่า 20 ปี สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน


ติดต่อเราได้ที่

———————————————

LINE : @deccodesign

Facebook Official: Decco Design

Tel. 093-424-1559 / 063-896-0577

———————————————


 
 
 

댓글


bottom of page