top of page

คู่มือฉบับเจ้าของบ้าน วิธีตรวจรับงานสร้างบ้านในแต่ละขั้นตอน

รูปภาพนักเขียน: Decco developDecco develop

 คู่มือฉบับเจ้าของบ้าน วิธีตรวจรับงานสร้างบ้านในแต่ละขั้นตอน

งานสร้างบ้านถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในชีวิตที่ต้องใช้ทั้งเงินทุนและเวลาอันมีค่า การตรวจรับงานในแต่ละขั้นตอนอย่างถูกต้องและรอบคอบจึงเป็นกระบวนการสำคัญที่เจ้าของบ้านไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยให้ได้บ้านที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการแล้ว ยังเป็นการป้องกันปัญหาและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย บทความนี้จะแนะนำวิธีการตรวจรับงานก่อสร้างบ้านในแต่ละขั้นตอนสำคัญ เพื่อให้เจ้าของบ้านมีความมั่นใจว่าจะได้บ้านที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน แม้ว่าจะไม่มีความรู้ด้านวิศวกรรมหรือสถาปัตยกรรมมาก่อนก็ตาม



1. การตรวจรับงานฐานรากและโครงสร้างงานสร้างบ้าน


การตรวจรับงานฐานรากและโครงสร้างงานสร้างบ้าน

งานสร้างบ้าน เป็นงานฐานรากถือเป็นหัวใจสำคัญของบ้านที่แข็งแรง เพราะเป็นส่วนที่รับน้ำหนักของตัวบ้านทั้งหมด หากมีปัญหาในส่วนนี้ การแก้ไขในภายหลังจะทำได้ยากและมีค่าใช้จ่ายสูง


สิ่งที่ควรตรวจสอบ

  • ตำแหน่งและขนาดของเสาเข็มตรงตามแบบก่อสร้างหรือไม่

  • ความลึกของฐานรากเป็นไปตามที่วิศวกรกำหนดหรือไม่

  • คุณภาพของคอนกรีตและอัตราส่วนผสมเหมาะสมหรือไม่

  • ขนาด จำนวน และระยะห่างของเหล็กเสริมเป็นไปตามแบบหรือไม่

  • ผลการทดสอบกำลังอัดของคอนกรีตได้ตามมาตรฐานหรือไม่


เทคนิคการตรวจสอบ: ควรตรวจรับงานร่วมกับวิศวกรโครงสร้างหรือผู้ควบคุมงานที่มีความรู้เฉพาะด้าน และบันทึกภาพถ่ายทุกขั้นตอนไว้เป็นหลักฐาน โดยเฉพาะงานที่จะถูกปิดทับและไม่สามารถมองเห็นได้ในภายหลัง


1.1 การตรวจสอบขั้นตอนการเตรียมพื้นที่


สิ่งที่ต้องตรวจสอบ

  • การวางผังอาคาร: ตรวจวัดระยะห่างจากแนวเขตที่ดินให้ถูกต้องตามกฎหมายควบคุมอาคาร

  • ระดับพื้นที่: ตรวจสอบการปรับระดับดินว่าได้ความลาดเอียงที่เหมาะสมเพื่อการระบายน้ำ

  • ตำแหน่งสาธารณูปโภค: ยืนยันตำแหน่งท่อน้ำประปา ท่อระบายน้ำ และจุดเชื่อมต่อไฟฟ้า


เครื่องมือที่จำเป็น

  • เทปวัดระยะ

  • อุปกรณ์วัดระดับน้ำ

  • แบบแปลนที่ได้รับอนุมัติ


2. การตรวจรับงานระบบไฟฟ้างานสร้างบ้าน


งานสร้างบ้านระบบไฟฟ้าเป็นระบบหนึ่งที่สำคัญและเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยโดยตรง การตรวจรับงานส่วนนี้จึงต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและควรทำก่อนที่จะมีการปิดผนังหรือฝ้าเพดาน


สิ่งที่ควรตรวจสอบ

  • แผนผังวงจรไฟฟ้าเป็นไปตามแบบหรือไม่

  • ตำแหน่งของสวิตช์ เต้ารับ และดวงโคมถูกต้องและสะดวกต่อการใช้งานหรือไม่

  • ขนาดสายไฟเหมาะสมกับการใช้งานหรือไม่ (เช่น วงจรแสงสว่าง วงจรเครื่องปรับอากาศ)

  • การเดินสายไฟต้องอยู่ในท่อร้อยสายที่ได้มาตรฐาน ไม่มีการต่อสายในที่ซ่อนเร้น

  • มีการติดตั้งสายดินและอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้ารั่วอย่างถูกต้องหรือไม่


เทคนิคการตรวจสอบ: ทดสอบการทำงานของวงจรไฟฟ้าด้วยเครื่องทดสอบก่อนที่จะมีการปิดผนัง และควรขอแผนผังวงจรไฟฟ้าที่สมบูรณ์จากผู้รับเหมาเพื่อใช้อ้างอิงในอนาคต


3. การตรวจรับงานระบบประปาและสุขาภิบาล


การตรวจรับงานระบบประปาและสุขาภิบาล

งานสร้างบ้านระบบประปาและสุขาภิบาลเป็นอีกระบบที่จะถูกปิดทับและแก้ไขได้ยากหลังจากงานก่อสร้างเสร็จสิ้น ปัญหาการรั่วซึมสามารถสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างและสภาพแวดล้อมภายในบ้านได้


สิ่งที่ควรตรวจสอบ

  • แนวท่อน้ำดีและท่อน้ำทิ้งเป็นไปตามแบบหรือไม่

  • มีการแยกระบบท่อน้ำดีและท่อน้ำทิ้งอย่างชัดเจนหรือไม่

  • ความลาดเอียงของท่อน้ำทิ้งเหมาะสมหรือไม่

  • คุณภาพของท่อและอุปกรณ์ประปาเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่

  • ตำแหน่งและการติดตั้งวาล์วควบคุมน้ำสะดวกต่อการเข้าถึงหรือไม่


เทคนิคการตรวจสอบ: ทดสอบความดันน้ำในระบบและสังเกตการรั่วซึม โดยเฉพาะบริเวณข้อต่อและจุดเชื่อมต่อ ทดสอบการระบายน้ำในห้องน้ำด้วยการทดลองเปิดน้ำไหลผ่านระบบระบายน้ำ


4. การตรวจรับงานพื้นและการปูกระเบื้อง


พื้นบ้านเป็นส่วนที่ต้องรับน้ำหนักการใช้งานและส่งผลต่อความสวยงามโดยรวม การตรวจรับงานพื้นและกระเบื้องจึงต้องพิจารณาทั้งความแข็งแรงและความสวยงาม


สิ่งที่ควรตรวจสอบ

  • ความเรียบของพื้น ไม่มีน้ำขังเมื่อทดสอบด้วยการเทน้ำ

  • การปูกระเบื้องได้แนวและระดับที่ถูกต้อง ไม่เอียงหรือบิดเบี้ยว

  • ยาแนวกระเบื้องเรียบร้อย ไม่มีรอยแตกหรือหลุดร่อน

  • การยึดเกาะของกระเบื้องแน่นหนาหรือไม่ (ทดสอบด้วยการเคาะฟังเสียง)

  • พื้นห้องน้ำมีความลาดเอียงเพียงพอสำหรับระบายน้ำหรือไม่


เทคนิคการตรวจสอบ: ใช้ไม้บรรทัดยาวหรือเชือกดึงตรวจสอบแนวระดับ หรือใช้ลูกกลมทดสอบการไหลของน้ำบนพื้นห้องน้ำ นอกจากนี้ยังควรทดสอบการรั่วซึมของพื้นห้องน้ำด้วยการขังน้ำไว้ประมาณ 24 ชั่วโมง


5. การตรวจรับงานผนังและฝ้าเพดาน


การตรวจรับงานระบบประปาและสุขาภิบาล

ผนังและฝ้าเพดานเป็นองค์ประกอบที่มองเห็นได้ชัดเจนและส่งผลต่อความสวยงามโดยรวมของบ้าน การตรวจรับงานส่วนนี้จึงควรให้ความสำคัญกับความเรียบร้อยและความเรียบของผิว


สิ่งที่ควรตรวจสอบ

  • ความเรียบของผนัง ไม่มีรอยนูนหรือเว้า

  • การฉาบปูนเรียบร้อย ไม่มีรอยค้างเครื่องมือหรือเป็นคลื่น

  • มุมผนังได้ฉากและตรงตามแบบที่กำหนด

  • ฝ้าเพดานเรียบและได้ระดับ ไม่มีรอยต่อที่ไม่เรียบร้อย

  • ช่องซ่อมบำรุงในฝ้าเพดานอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและเข้าถึงได้สะดวก


เทคนิคการตรวจสอบ: ใช้ไฟส่องในแนวขนานกับผนังเพื่อตรวจหารอยนูนหรือเว้า และใช้ระดับน้ำหรือเลเซอร์ตรวจสอบความได้ระดับของผนังและฝ้าเพดาน


6. การตรวจรับงานประตูและหน้าต่าง


การตรวจรับงานประตูและหน้าต่าง

ประตูและหน้าต่างเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างภายในและภายนอกบ้าน ซึ่งต้องทำหน้าที่ในการป้องกันน้ำ ลม และความร้อน รวมถึงเสริมความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย


สิ่งที่ควรตรวจสอบ

  • การเปิด-ปิดประตูและหน้าต่างได้สะดวก ไม่ติดขัด

  • วงกบแข็งแรง ไม่คลอน และได้ฉาก

  • บานพับและอุปกรณ์ล็อคทำงานได้ดี ไม่หลวมหรือฝืด

  • การกันน้ำรอบวงกบหน้าต่างและประตูภายนอกมีประสิทธิภาพหรือไม่

  • บานประตูและหน้าต่างไม่มีรอยแตกร้าว บิดเบี้ยว หรือมีตำหนิ


เทคนิคการตรวจสอบ: ทดสอบการเปิด-ปิดประตูและหน้าต่างหลายๆ ครั้ง ตรวจสอบความเรียบร้อยของซิลิโคนรอบวงกบประตูและหน้าต่าง โดยเฉพาะส่วนที่อยู่ภายนอกอาคาร


7. การตรวจรับงานทาสีและตกแต่งผิว


งานทาสีและตกแต่งผิวเป็นงานขั้นสุดท้ายที่จะเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน การตรวจรับงานส่วนนี้ควรพิจารณาทั้งความสวยงามและความคงทนของงาน


สิ่งที่ควรตรวจสอบ

  • ความสม่ำเสมอของสี ไม่ด่าง ไม่เป็นคราบ

  • การปกปิดของสีสมบูรณ์ ไม่โปร่งแสง

  • ไม่มีรอยแปรงหรือรอยหยดของสีที่เห็นชัดเจน

  • การใช้สีถูกประเภท (เช่น สีภายนอก สีภายใน สีกันเชื้อรา)

  • การเก็บรายละเอียดรอบซอกมุม ขอบประตู หน้าต่าง เรียบร้อยหรือไม่


เทคนิคการตรวจสอบ: ตรวจสอบงานสีในเวลาที่มีแสงธรรมชาติดี เพื่อให้เห็นตำหนิได้ชัดเจน หรือใช้ไฟส่องในมุมต่างๆ เพื่อตรวจหาตำหนิบนผิวสี


8. การตรวจรับงานระบบอื่นๆ และงานตกแต่งภายนอก


การตรวจรับงานระบบอื่นๆ และงานตกแต่งภายนอก

นอกจากงานหลักภายในบ้านแล้ว ยังมีระบบอื่นๆ และงานตกแต่งภายนอกที่ต้องตรวจรับเพื่อให้การใช้งานบ้านเป็นไปอย่างสมบูรณ์


สิ่งที่ควรตรวจสอบ

  • ระบบระบายน้ำรอบบ้านมีประสิทธิภาพหรือไม่

  • การปูกระเบื้องหรือวัสดุปูพื้นภายนอกแข็งแรงและระบายน้ำได้ดีหรือไม่

  • การทำทางเท้า ถนน และรั้วเป็นไปตามแบบและแข็งแรงหรือไม่

  • ระบบกันซึมของดาดฟ้าหรือระเบียงมีประสิทธิภาพหรือไม่

  • การจัดภูมิทัศน์และระบบรดน้ำต้นไม้ (ถ้ามี) ทำงานได้ดีหรือไม่


เทคนิคการตรวจสอบ: ทดสอบการระบายน้ำโดยการรดน้ำบริเวณรอบบ้าน สังเกตการไหลของน้ำว่าไม่มีการท่วมขัง และตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างภายนอกด้วยสายตาและการสัมผัส


เคล็ดลับสำคัญในการตรวจรับงานสร้างบ้าน

  1. เตรียมความพร้อมด้านเอกสารและความเข้าใจ

  2. ศึกษาสัญญาและแบบก่อสร้าง ให้เข้าใจทุกรายละเอียดก่อนเริ่มตรวจงาน

  3. จัดทำรายการตรวจสอบ (Checklist) แยกตามงวดงานและตามประเภทของงาน

  4. ถ่ายภาพก่อนและหลัง ในทุกขั้นตอนเพื่อเป็นหลักฐานและใช้เปรียบเทียบ

  5. จัดหาผู้เชี่ยวชาญมาร่วมตรวจงาน

  6. ว่าจ้างวิศวกรอิสระ ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเพื่อตรวจงานโครงสร้าง

  7. ประสานงานกับผู้ควบคุมงาน ที่มีประสบการณ์เพื่อดูแลในรายละเอียดทั้งหมด

  8. ลงทุนในผู้เชี่ยวชาญ เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวจากการป้องกันปัญหา

  9. ให้ความสำคัญกับจุดวิกฤตในการก่อสร้าง

  10. ตรวจงานฐานรากอย่างละเอียด เพราะเป็นส่วนที่แก้ไขยากที่สุดหลังจากก่อสร้างเสร็จ

  11. ตรวจระบบต่างๆ ก่อนปิดผนัง ทั้งระบบไฟฟ้าและประปาเพื่อป้องกันการทุบรื้อในภายหลัง

  12. ทดสอบการใช้งาน ของอุปกรณ์และระบบต่างๆ ก่อนตรวจรับงานขั้นสุดท้าย

  13. การบริหารจัดการความสัมพันธ์กับผู้รับเหมา

  14. สื่อสารปัญหาและความคาดหวังอย่างชัดเจน โดยยึดตามแบบและสัญญาเป็นหลัก

  15. บันทึกข้อตกลงและการแก้ไขเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมลงนามรับทราบทั้งสองฝ่าย

  16. จัดประชุมติดตามความคืบหน้า อย่างสม่ำเสมอเพื่อแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้น


บทสรุป


การตรวจรับงานที่มีประสิทธิภาพควรทำอย่างเป็นระบบ มีการจดบันทึกและถ่ายภาพเป็นหลักฐาน รวมถึงการทำรายการตรวจสอบ (Checklist) เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีจุดใดถูกมองข้าม หากเจ้าของบ้านไม่มีความรู้เฉพาะทาง ควรพิจารณาจ้างผู้ควบคุมงานหรือวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญมาช่วยในการตรวจสอบ เพื่อให้ได้บ้านที่มีคุณภาพและปลอดภัยสูงสุด สิ่งสำคัญที่เจ้าของบ้านต้องตระหนักคือ การตรวจรับงานไม่ใช่เพียงการจับผิดผู้รับเหมา แต่เป็นการร่วมมือกันเพื่อให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพ ดังนั้น การสื่อสารที่ชัดเจนและการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้รับเหมาจะช่วยให้กระบวนการก่อสร้างและการตรวจรับงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ


บทปิดท้าย


ขอบคุณที่ติดตามบทความ "วิธีตรวจรับงานสร้างบ้านในแต่ละขั้นตอน" หวังว่าข้อมูลที่นำเสนอจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการสร้างบ้านหรือวางแผนที่จะสร้างบ้านในอนาคต หากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรวจรับงานสร้างบ้าน สามารถติดต่อเราได้ทางช่องทางการติดต่อที่ระบุไว้ เรายินดีให้คำปรึกษาและแบ่งปันประสบการณ์เพื่อให้ท่านได้บ้านในฝันที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง


หมายเหตุ ข้อมูลในบทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ความรู้และแนวทางปฏิบัติเท่านั้น ขอแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลกับผู้เชี่ยวชาญก่อนนำไปใช้ทุกครั้ง เพื่อให้คุณมีธุรกิจที่มีคุณภาพมีมาตรฐาน ลดข้อผิดพลาดที่จะตามมาทีหลัง ให้คุณได้รู้รายละเอียดของงานที่กำลังดำเนินงานได้อย่างโปร่งใส เพื่อการทำธุรกิจที่ยั่งยืนต่อไป


DeccoDesign เราสร้างสรรค์ผลงาน ยกระดับมาตรฐานงานออกแบบทุกประเภทร้าน มีการทำงานอย่างเป็นระบบแบบมืออาชีพ ให้บริการครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศแบบ One Stop Service ครบจบในที่เดียว ด้วยประการณ์การทำงานมากกว่า 20 ปี สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน


ติดต่อเราได้ที่

———————————————

LINE : @deccodesign

Facebook Official: Decco Design

Tel. 093-424-1559 / 063-896-0577

———————————————

Comments


bottom of page